วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ลักษณะการนำเสนอและคุณสมบัติของผู้นำเสนอที่ดี

หลังจากกำหนดจุดมุ่งหมายการนำเสนออย่างชัดเจน และวิเคราะห์ผู้รับการนำเสนอแล้วจะต้องต้องเลือกรูปแบบการนำเสนอให้เหมาะสมมีการรวบรวมข้อมูล เพื่อนำมาสนับสนุนการนำเสนอด้วยการนำมาเขียนคำกล่าวนำและเนื้อเรื่องตลอดจนคำสรุป รวมทั้งจะต้องจัดเตรียมการใช้โสตทัศนูปอุปกรณ์ ตามความเหมาะสม

ในการนำเสนอผลงานให้ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์นั้นอาจแบ่งได้เป็น 3 ขั้นตอนดังนี้
1. เตรียมให้พร้อม
2. ซ้อมให้ดี
3. มีบุคลิกมั่นใจ

1.1 การเลือกรูปแบบการนำเสนอ เป็นการพิจารณาความเหมาะสมว่าจะให้การนำเสนอรูปแบบใด จึงจะเหมาะสม วัตถุประสงค์ของการนำเสนอ เหมาะกับลักษณะและความต้องการหรือไม่
1.2 การรวบรวมข้อมูล ผู้นำเสนอจะต้องทำความเข้าใจข้อมูลต่าง ๆให้แจ่มชัด การนำเสนอเอกสาร ข้อมูลประกอบจะต้องมีความรอบคอบ จัดทำเป็นระบบระเบียบ การนำเสนอผลงานประกอบคำบรรยายภาพ ไม่ควรอธิบายเพียงสิ่งที่อยู่บนจอภาพ ควรพูดถึงที่มาของกระบวนการคิด ปัญหาข้อผิดพลาดและความสำเร็จ เพื่อให้รู้สนใจ ทั้งงานของคุณและตัวคุณเอง
1.3 การเตรียมคำพูด กล่าวนำ เนื้อเรื้อง และคำสรุป เป็นขั้นตอนที่สำคัญ การกล่าวนำให้น่าสนใจ เร้าความรู้สึกใคร่รู้ ให้ส่วนกลางฟัง ซึ้งไม่ควร จะมีความยาวเกินกว่า 10 % ของเนื้อหาทั้งหมด

ส่วนเนื้อเรื่อง จะต้องประมวลความคิดด้วยการรวบรวมข้อมูลสถิติหลักฐาน มีการคิดเหตุผล และจัดลำดับความคิดนำมาเรียบเรียงถ้อยคำ และเลือกใช้ถ้อยคำให้สื่อความหมายตรงตามวัตถุประสงค์อย่างเหมาะสม

ส่วนคำสรุป ไม่ควรมีคำกล่าวกวน แต่จะต้องมีความสั้น กระชับ ระหว่าง 5-10 % ของเนื้อหา เพราะการสรุปเป็นการประมวลความจากเนื้อหาให้หลอมรวมกัน เพื่อเน้นย้ำสาระของเรื่องที่นำเสนอแต่ไม่ใช่การกล่าวซ้ำความในเนื้อเรื่อง

2. ซ้อมให้ดี
2.1 ซ้อมพูด เมื่อทำสื่อเพื่อการนำเสนอเสร็จ ไม่ได้หมายความว่าคุณนั้นพร้อมจะนำเสนอ ดังนั้นจงซ้อมจน กระทั่งสามารถควบคุมจังหวะและเวลาได้ และไม่รู้สึกเกร่ง ลองหาหนูทดลอง มาฟังคุณซ้อมอาจจะชวนเพื่อนหรือคนที่ไม่รู้จักมาฟังจะดีมาก

ยืนพูด ให้ความสำคัญกับลักษณะ ท่าทางและเสียงพูดของคุณดูว่าฟังพูดตะกุงตะกัก

2.2 ปรับปรุงแก้ไข เป็นส่วนที่จะละเลยไม่ได้ ในการฝึกซ้อมจะพบข้อติดขัด หรือ บกพร่องอยู่ แต่ถ้าปล่อยให้เลยตามเลยไม่คิดหาวิธีแก้ไขและดำเนินปรับปรุง

3. มีบุคลิกมั่นใจ
3.1 ลักษระการนำเสนอที่ดี โดยทั่วไปควรมีดังต่อไปนี้
1. มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน มีความต้องการที่แน่ชัด อะไร
2. มีรูปแบบการนำเสนอเหมาะสม มีความกะทัดรัด
3. เนื้อหาสาระดี มีความน่าเชื่อถือ
4. มีข้อเสนอที่ดี มีข้อเสนอที่สมเหตุสมผล

3.2 คุณสมบัติของผู้นำเสนอ
ในการนำเสนอด้วยวาจา คุณสมบัติอันเป็นลักษณะประจำตัวในของผู้นำเสนอ ถือได้ว่า เป็นส่วนสำคัญของความสนใจในการนำเสนอ


ผู้นำเสนอที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

1. มีบุคลิกดี 7
2. มีความรู้อย่างถ่องแท้ 6
3. มีความน่าเชื่อถือไว้วางใจ 9
4. มีความเชื่อมั่นในตนเอง 8
5. มีภาพลักษณ์ที่ดี 8
6. มีน้ำเสียงชัดเจน 6
7. มีจิตวิทยาโน้มน้าวใจ 6
8. มีความสามารถใช้โสตทัศนอุปกรณ์ 7
9. มีควาช่างสังเกต 10
10. มีไหวพริบปฎิภาณในคำถามดี 8

รวม 75

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

หลักการสร้างสื่อ เพื่อการนำเสนอที่ดี 26 ม.ค 53

ตัวอย่างกรณีศึกษา สื่อไตเติ้ลรายการ
ศิลปะในการนำเสนอไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแต่ มุมกล้องการจัดแสงที่สวยงาม สื่ออารมณ์และความหมายภามที่ผู้ผลิต รายการต้องการเท่านั้นยังมีศิลปะของการนำเสนออีกรูปแบบหนึ่งที่ทุกรายการจะขาดเสียมิได้ นั้นดี ๆส่วนที่เรียกว่าเป็น ส่วนประกอบรายการ อันได้แก่ไตเติ้ล ตัวอย่างรายการ อินเตอร์ลูดหรือคีซีน และท้ายรายการ

ไตเติ้ล คือ ส่วนประกอบรายการโทรทัศน์ ที่ทำหน้าที่บอกชื่อรายการโดยปกติจะอยู่ ในส่วนแรกสุด ของรายการ
1. รูปแบบการนำเสนอ
2. ลักษณะของภาพ
3. ทัศนสารที่ใช้สร้างเรื่อง
4. ตัวอักษรชื่อรายการ
5. ลำดับการนำเสนอ
6. การใช้เสียง
7. ความยาว
8. ลีลา

1. รูปแบบการนำเสนอไตเติ้ลรายการ
คือวิธีการเล่าเรื่องด้วยภาพที่ปรากฎในไตเติ้ลรายการ ในไตเติ้ล
1.1 การใช้ชื่อรายการ มีการใช้เฉพาะชื่อรายการเท่านั้นในการนำเสนอโดยปราศจากภาพ ที่จะช่วยขยายความหรื่อเล่าเรื่อง
1.2 การใช้สัญลักษณ์ สัญลักษณ์ เป็นสิ่งที่ใช้แทนความหมายของสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป
1.3 การนำเสนอบุคคล การนำเสนอบุคคลในไตเติ้ล รายการมี 3 ลักษณะคือ การแนะนำ ผู้ดำเนินรายการ หรือพิธีกร การแนะนำนักแสดง และการแนะนำแขกรับเชิญ
1.4 การใช้ภาพแสดงเนื้อหา ภาพแสดงเนื่อหาที่ใช้เป็นรูปของการนำเสนอไตเติ้ลทำให้ผู้ชมทราบได้เป็นอย่างดี

1.5 การสร้างโครงเรื่อง โดยปกติแล้วโครงเรื่องเป็นส่วนประกอบสำคัญของการเล่าเรื่องในรูปแบบละคร

2. ลักษณะของภาพไตเติ้ล
2.1 ชนิดภาพมีการสร้างสรรค์ ภาพโดยใช้ภาพที่ถ่ายจริง มักเป็นไตเติ้ล
2.2 มุมกล้องภาพ ที่ปรากฏมักเป็นภาพประเภท simple shot คือเป็นภาพที่มีเพียงวัตถุเท่านั้นที่เคลี่อนไหว
developing shot เป็นภาพที่ประกอบขึ้นจากการเคลื่อนไหวของเลนน์
complex shot เป็นภาพที่ประกอบขึ้นจากการเคลื่อนไหวของเลน
2.3 ลำดับภาพ คือวิธีการเรียงร้อยภาพเข้าไว้ด้วยกันเพื่อสื่อสารไปยังผู้ชม
การซ้อนภาพ
การตัดภาพ เป็นการนำภาพหนึ่งไปต่อท้ายภาพอีกภาพหนึ่ง
การจางซ้อนภาพ เป็นการนำภาพหนึ่ง ไปเชื่อมกับอีกภาพหนึ่งโดยที่ในช่วงการเชื่อมต่อ ช่วงท้ายของภาพแรกค่อย ๆจางภาพไป
การกวาดภาพ เป็นการนำภาพหนึ่งไปเชื่อมกับอีกภาพหนึ่ง โดยช่วงการเชื่อมต่อยังคงเห็นทั้งสองภาพ มีความชัดเท่ากัน

3. ทัศนสารที่ใช้สร้างเรื่องได้แก่ พื้นที่ เส้น รูปร่าง ความเข้ม สี การเคลื่อนไหว และจังหวะ
3.1 พื้นที่
3.2 เส้น ปรากฏอยู่ในทุก ๆส่วนของภาพ เพราะเมื่อมีความแตกต่างของความเข้มสีหรือสีตัด กันอย่างชัดเจนเส้นสีปรากฏเส้นที่พบเห็นในไตเติ้ล
3.3 รูปร่าง การใช้รูปร่างพื้นฐาน ได้แก่ วงกลม สี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยม สำหรับรูปร่างพื้นฐาน สองมิติ และทรงกลมลูกบาศน์
3.4 สี และความเข้มสี สีแต่ละสีให้อารมณ์

สีแดง ความตื่นเต้นเร้าใจ
สี่เหลือง ดูสดใส ศักดิ์สิทธิ์
สีน้ำเงิน หนักแน่น มีราคา
สีฟ้า ให้ความสุขสบาย โปร่ง
สีเขียว ให้ความรู้สึกสดชื่น
สีม่วง มีเสน่ ลึกลับ
สีชมพู รู้สึกนุ่มนวล
สีสันหลากหลาย สดใส สนุกสนาน

วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2553

ขั้นตอนการทำกราฟิก

1. คลิกขวาที่มี Rectangle Tool สัญลักษณ์รูปสี่เหลี่ยมในกล่องเครื่องมือ
2. ก็จะขึ้นเป็น I con รูปมือขึ้นมา เพื่อการเลื่อนกระดาษ
3. คลิกที่ view ทำการตีกรอบ ขยายกรอบ แล้วไปคลิกที่ลูกศรที่กล่องเครื่องมือ
4. แล้วเลือกสีที่เราต้องการ 1 สี แล้วไปคลิกที่กรอบสีที่กล่องเครื่องมือแต่เลือกกรอบที่ 2
5. แล้ววาดกรอบสี่เหลี่ยมเพิ่มขึ้น แล้วปรับกรอบสี่เหลี่ยมให้เล็กลง
6. คลิกที่ Blend options คลิก Cancel
7. หรืออีกวิธี คลิกเมนู object Blend options
8. จะได้รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า 4 รูป ไล่ระดับกันไป
9. มี I con มือ ปรับให้เล็กลง แล้วกดคลิกที่ลูกศรเพื่อทำการคลุม รูปสี่เหลี่ยมทั้ง 4 รูป ย่อขนาดให้เล็กลง
10.ไปที่กล่องเครื่องมือ Brushes แล้วไปที่หน้าต่าง window ไปที่ Brushes
11. new Brush แล้วไปที่ New Art Brush แล้วคลิก OK จะขึ้นหน้าต่าง Art Brush Options
12. เลือกลูกศร ที่หันไปทางขวามือ ได้ตามที่ต้องการแล้วคลิก OK
13. แล้วไปคลิกที่กล่องเครื่องมือ ที่เป็นรูปสี่เหลี่ยม แล้วไปคลิกที่ Fillip Tool ที่เป็นรูปวงกลม
14. สร้างวงกลมขึ้นมา 1 รูป แล้วก็เอา สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่สร้างไว้แล้ว ไปใส่ในวงกลม
15. ปรับขนาด ย่อขนาด ตามความเหมาะสม
16. สร้างรูปวงกลมเพิ่มอีก 1 รูป แล้วไปที่ Brushes แล้วก็จะขึ้นหน้าต่าง New scatter Brush คลิก OK ก็จะขึ้นหน้าต่าง Scatter Brush
17. Fixed ก็จะ size ให้เลือก ก็จะเลือก Random
18. ปรับขนาด size spacing scatter ตามต้องการ แล้วคลิก Ok
19. คลิก รูปสี่เหลี่ยมในกล้องเครื่องมือ แล้วเลือก Rectangle Tool เพื่อสร้างกรอบสี่เหลี่ยม 1 รูป เลือกสี แล้วปรับ กรอบสี่เหลียมในกล้องเครื่องมือ ที่อยู่ล่างสุด
20. ปรับขนาดสี่เหลี่ยม ให้พอดี สร้างกรอบอีก 1 กรอบ ที่สี่เหลี่ยมแนวยาว ให้เป็น 4 รูป
21. คลิกที่ แปรง ตรงกล่องเครื่องมือ ทำเป็นลายเส้น คลิกที่ลูกศรด้านบนตรงกล่องเครื่องมือทำให้สามารถเลื่อนได้
22. แล้วไปคลิกที่ วงกลม ที่ทำไว้แล้ว ใน Brushes
23. ปรับขนาด size spacing scatter อีกครั้ง เพื่อความสวยงาม แล้วคลิก Ok
24. จะขึ้นหน้าต่าง Brush Change Alert แล้วคลิกที่ Apply to strokes
25. จัดให้เรียบร้อย แล้วคลิกที่ T เพื่อสร้างตัวอักษร อะไรก็ได้แล้วขยายให้ใหญ่ขึ้น ให้เท่ากับลายกราฟิกแล้วเลือกสีให้ตัวอักษรกับกราฟิกเหมือนกัน หรือต่างกันก็ได้
26. เสร็จเรียบร้อย ตามที่ต้องการ

วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

หลักการออกแบบเเบรนเนอร์ 5 ตัวอย่าง

1. ตัวอักษร







2. สัญลักษณ์








3. ภาพประกอบ












4. สี







5. การจัดวาง